|
|||
ผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่ที่ยังไม่จดทะเบียนบริษัท ถือเป็นการทำธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ประกอบธุรกิจเหล่านี้สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายในการคำนวณเงินได้สุทธิได้ 2 รูปแบบคือ อัตราเหมา หรือหักตามจริง ซึ่งหากเลือกแบบหักตามจริงแล้ว กรมสรรพากรกำหนดให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้มีการทำบัญชีร้านค้าหรือบัญชีรายรับ-รายจ่ายเพื่อแสดงรายได้และรายจ่ายประจำวัน มีรายละเอียดดังนี้ 1. การทำบัญชีร้านค้า ต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามรูปแบบที่กรมสรรพากรกำหนด ซึ่งสามารถเพิ่มช่องรายการให้เหมาะสมกับธุรกิจได้ 2. ต้องจัดทำเป็นภาษาไทย ถ้าภาษาต่างชาติให้มีภาษาไทยกำกับ : มีเอกสารประกอบการลงรายงาน เช่น ใบกำกับภาษีหรือใบเสร็จรับเงิน : สามารถลงเป็นยอดรวมของวัน โดยมีเอกสารประกอบ หรือลงแยกเป็นรายการก็ได้ : รายจ่ายที่นำมาลงในรายงาน ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบธุรกิจ ไม่เป็นรายจ่ายส่วนตัว : สำหรับภาษีซื้อที่เกิดจากรายจ่ายนั้น สามารถนำมาลงเป็นต้นทุนของสินค้า หรือค่าใช้จ่ายได้ทั้งจำนวน เพราะผู้ประกอบการไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม : หากมีการขายสินค้า/ ให้บริการ ซื้อสินค้า หรืออื่นๆ เป็นเงินเชื่อ ให้บันทึกรายการนั้นในวันที่ได้รับชำระ หรือจ่ายชำระ โดยอธิบายเพิ่มเติมในช่องหมายเหตุ 5. สรุปยอดรายรับ-รายจ่ายทุกๆ เดือนเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา ต้องทำการยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี (ภ.ง.ด. 94) หรือภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี (ภ.ง.ด. 90) ปัจจุบันมีโปรแกรมสำเร็จรูปทางการบัญชีให้เลือกใช้มากมาย ที่ช่วยให้การทำบัญชีร้านค้าเป็นไปได้ง่ายขึ้น ด้วยรูปแบบเอกสารทางธุรกิจที่ได้มาตรฐาน ซึ่งการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่เริ่มต้นนี้ก็จะส่งผลดีให้เราเกิดความคุ้นเคยก่อนที่ธุรกิจจะเติบโตขึ้นและเข้าไปอยู่ในรูปแบบนิติบุคคล และนิติบุคคลในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไป แนะนำบทความที่เกี่ยวข้อง มาตรการบัญชีเล่มเดียว : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=9 โปรแกรมการทำบัญชี : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=241 ประโยชน์ที่แท้จริงของมาตรการบัญชีชุดเดียว : https://www.amtaudit.com/view_news.php?id=21
โดยทีมงาน AMTaudit & AMTsolution
(Audit & Assurance Services) |
|||